เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงกลับไม่ได้เป็นการใช้น้ำฟุ่มเฟือยอย่างที่หลายคนคิด หากเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับประเภทงานและใช้อย่างถูกวิธี เครื่องชนิดนี้กลับสามารถช่วยประหยัดน้ำได้มากกว่า การใช้สายยางธรรมดาอย่างชัดเจน
กลไกสำคัญของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงอยู่ที่การใช้แรงดันแทนปริมาณน้ำในการขจัดสิ่งสกปรก ทำให้สามารถล้างพื้นหรืออุปกรณ์ได้สะอาดหมดจดในระยะเวลาอันสั้น โดยใช้น้ำเพียงไม่กี่ลิตรต่อครั้ง ทั้งยังช่วยลดการล้างซ้ำและการใช้น้ำเกินความจำเป็น งานศึกษาหลายชิ้นระบุว่า การใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงสามารถลดปริมาณน้ำที่ใช้ได้มากถึง 70 – 80% เมื่อเทียบกับการล้างแบบทั่วไป อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษจากน้ำเสียและลดการใช้สารเคมีในกระบวนการล้าง ทำให้การทำความสะอาดในรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่สะดวกและประหยัด แต่ยังตอบโจทย์แนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ทำลายหรือสิ้นเปลืองจนเกินไป เพื่อให้คนรุ่นต่อไปยังสามารถใช้ทรัพยากรเหล่านั้นได้อย่างเพียงพอในอนาคต
เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงกลายเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับความนิยมทั้งในครัวเรือนและในภาคอุตสาหกรรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงแค่ความง่ายดายและความสะดวกสบายในการทำความสะอาด แต่ยังรวมถึงความประหยัด ด้วยเหตุผลดังนี้
หัวใจของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงคือระบบที่เพิ่มแรงดันให้กับปริมาณน้ำเพียงเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยออกทางหัวฉีดขนาดเล็ก ทำให้เกิดพลังน้ำที่มีแรงกระแทกสูงพอจะชะล้างคราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องอาศัยน้ำจำนวนมากเหมือนสายยางทั่วไป
ตัวอย่างเช่น สายยางตามบ้านมีแรงดันเพียง 2 – 3 บาร์ แต่เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงสำหรับบ้านเรือนอยู่ที่ 100 –150 บาร์ และในบางรุ่นจาก Nilfisk สำหรับการใช้งานระดับอุตสาหกรรมรุ่นอุตสาหกรรม ให้แรงดันสูงถึง 200 – 250 บาร์
แม้น้ำที่ปล่อยออกมาจะมีปริมาณเพียง 6 – 8 ลิตรต่อนาที ทำให้พลังการฉีดล้างทำความสะอาดกลับสูงกว่าการเปิดน้ำธรรมดาหลายเท่า จึงใช้เวลาน้อยลง
ข้อมูลจาก Nilfisk ชี้ว่า การล้างพื้นระเบียงขนาด 50 ตารางเมตร ด้วยสายยางทั่วไปต้องใช้น้ำเฉลี่ย 500 ลิตร แต่หากใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจะใช้น้ำเพียง 100–150 ลิตร เท่านั้น หรือประหยัดได้ถึง 70–80 เปอร์เซ็นต์ ในงานเดียวกัน
นอกจากปริมาณน้ำที่ลดลงแล้ว แรงดันสูงยังช่วยให้สิ่งสกปรกหลุดออกเร็ว ไม่ต้องล้างซ้ำหลายรอบ จึงประหยัดทั้งน้ำ เวลา และแรงงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคราบฝังแน่นหรือสิ่งสกปรกประเภทน้ำมัน
น้ำที่พ่นออกจากหัวฉีดด้วยความเร็ว 40 – 60 เมตรต่อวินาที สามารถขจัดคราบได้โดยไม่ต้องพึ่งผงซักฟอกหรือสารเคมีเสริมมากนัก ทำให้ลดการเกิดน้ำเสีย และลดการปล่อยสารเคมีลงสู่สิ่งแวดล้อม ในภาคอุตสาหกรรม เช่น โรงงานผลิตอาหารหรือคลังสินค้า และ Nilfisk ยังพัฒนาเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงรุ่นที่มีระบบกรองน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Recycling System) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการใช้ทรัพยากรแบบหมุนเวียน
ระบบหยุดน้ำอัตโนมัติ
ระบบนี้ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงยุคใหม่ควรมี เพราะจะช่วยให้เครื่องหยุดการทำงานทันทีเมื่อผู้ใช้ปล่อยมือจากด้ามฉีด หรือเมื่อแรงดันในปั๊มถึงระดับที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ จุดเด่นของระบบนี้คือ
หัวฉีดที่สามารถปรับแรงดันและมุมการพ่นได้ (Variable Nozzle) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมทิศทางและความแรงของน้ำให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด เช่น
การปรับแรงดันให้เหมาะสมช่วยลดการฉีดซ้ำในจุดเดิม และลดระยะเวลาการทำความสะอาด ส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำในทุกครั้งที่ใช้งาน
อัตราการไหลของน้ำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อความประหยัดน้ำเช่นกัน ซึ่งเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงสำหรับการใช้งานทั่วไปมักมีอัตราการไหลอยู่ที่ประมาณ 6 – 8 ลิตรต่อนาที ถือว่าเพียงพอต่อการล้างพื้น ผนัง หรือรถยนต์ โดยไม่ต้องใช้น้ำมากเกินความจำเป็น
เครื่องที่ออกแบบให้มีอัตราการไหลต่ำ แต่คงแรงดันสูงช่วยให้การล้างสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องที่ใช้น้ำมากแต่แรงดันต่ำ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าทั้งด้านพลังงานและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
ในเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงบางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม จะมีระบบหมุนเวียนน้ำในตัว ซึ่งทำงานโดยการกรองน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้วให้นำกลับมาใช้ซ้ำได้ ระบบนี้ช่วยลดการใช้น้ำใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในโรงงานผลิตอาหาร คลังสินค้า หรือศูนย์ซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ที่ต้องล้างพื้นและเครื่องจักรเป็นประจำทุกวัน
เมื่อมองให้รอบด้าน เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงไม่ใช่อุปกรณ์ที่สิ้นเปลืองน้ำอย่างที่หลายคนกังวล หากเลือกให้เหมาะกับลักษณะงานและใช้อย่างถูกวิธี เครื่องประเภทนี้สามารถช่วยประหยัดน้ำได้จริง ทั้งยังทำความสะอาดได้รวดเร็ว ลดแรงงาน ลดการใช้สารเคมี และลดการล้างซ้ำโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเครื่องจะขึ้นอยู่กับสภาพน้ำและแรงดันต้นทางของแต่ละบ้านด้วย หากน้ำแรงเพียงพอ เครื่องจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าแรงดันน้ำต้นทางไม่สูงนัก ก็ยังสามารถใช้ได้กับงานทั่วไป เช่น ล้างพื้น ล้างระเบียง หรือล้างรถ เพียงแต่ควรเลือกหัวฉีดและระดับแรงดันให้เหมาะสม
ดังนั้น สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีทำความสะอาดที่ทั้งสะดวก ประหยัด และใส่ใจสิ่งแวดล้อม การลองเปลี่ยนมาใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจาก Nilfisk อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะช่วยให้บ้านสะอาดขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้ำน้อยลงแล้ว ยังเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่ช่วยสนับสนุนแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวันอีกด้วย
กว่า 100 ปีมาแล้ว ที่ชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์นิลฟิสก์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายว่าเป็นมาตรฐานแห่งอุปกรณ์ทำความสะอาดเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง